กลุ่มสยามพิวรรธน์ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งการสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก ทุกเทศกาล ครองแชมป์จุดเช็คอินอันดับ 1 ของไทย ทุบทุกสถิติ social platform สูงสุด ดันยอดนักท่องเที่ยว หนุนธุรกิจโดยรอบโตอย่างยั่งยืน
- ไอคอนสยาม ครองตำแหน่ง No.1 Global Experiential Destination of Songkran Celebration 2025 ดึงดูดผู้ร่วมงานทะลุเกินเป้ากว่า 1.44 ล้านคนในศูนย์การค้าเดียว
- ทุบสถิติ Social Trend บนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ กระแสแรงที่สุดในเทศกาลสงกรานต์ ไอคอนสยามแซงทุกงาน ได้รับการพูดถึงมากที่สุด และมีเอนเกจสูงถึง 534,215 Engagement ยอด view บน TikTok Official Account ICONSIAM สูงถึง 165 ล้าน views
- กลุ่มวันสยาม – สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ – รวมพลังสร้าง 3 ประสบการณ์ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.75 ล้านคน
- สร้างแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ ดันจำนวนนักท่องเที่ยวโตขึ้น 10.73% รายได้เรือท่องเที่ยวเพิ่ม 20% หนุนธุรกิจโดยรอบและภายในอีโคซิสเต็มเติบโตก้าวกระโดด
หลังจากเมื่อต้นปีนี้ กลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้สร้างมหาปรากฏการณ์เคาต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และได้รับการกล่าวถึงไปทั่วโลก นำเสนอที่สุดแห่งมหกรรมความบันเทิง นำโดย ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินระดับโลกสัญชาติไทย ทุบสถิติผู้ชมกว่า 30 ล้านคนผ่านการถ่ายทอดสด และมียอดผู้ชมทั่วโลกกว่า 100 ล้านวิว
สยามพิวรรธน์ยังคงยืนหนึ่งสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอีกครั้งในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ระดับโลก ครองแชมป์จุดเช็คอินอันดับหนึ่งของสงกรานต์ในประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ของ Social Trend ในทุกแพลตฟอร์ม สร้างสุดยอดประสบการณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมภาพลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก
คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี ประธานคณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ สาขาด้านการท่องเที่ยว กล่าวว่า “ตั้งแต่ที่มีการจัดงาน Countdown ปีใหม่ที่ไอคอนสยาม และมีการประชาสัมพันธ์งานอีเวนต์ออกไปตามช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและสื่อต่างชาติ สามารถช่วยสร้างทราฟฟิกให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี จนทำให้เมืองไทยกลายเป็น World City นอกเหนือจาก ปารีส ลอนดอน และโตเกียว สะท้อนให้เห็นถึงเมืองท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัย และสงกรานต์ปีนี้ ไอคอนสยามก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้จำนวนนักท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้น 10.73% ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างชัดเจน โดยเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทยในทุกมิติ สร้างจุดหมายปลายทางให้ทุกคนรับรู้ว่า Songkran as a Destination เป็นการปักหมุดให้โลกเห็นถึงประเพณีอันดีงามของไทย อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนกรุงเทพมหานครอีกครั้งอย่างสง่างาม”
นาวาโทปริญญา รักวาทิน นายกสมาคมการค้าธุรกิจการค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา กล่าวว่า “การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปี 2568 บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวและชุมชนต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างความคึกคักให้กับธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานเทศกาลสงกรานต์ระดับโลก “ICONSIAM THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION 2025” ที่ไอคอนสยามจัดขึ้นนั้น ได้สร้างกระแสที่ดีมากและส่งผลประโยชน์ในวงกว้างต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวโดยรอบแม่น้ำ อีกทั้งยังได้ช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร เรือประเภทต่างๆ ของภาคการท่องเที่ยวทางน้ำ ที่ต่างก็คึกคักและได้รับแรงกระเพื่อมมหาศาล กิจกรรมครั้งนี้สร้างรายได้ และเพิ่มยอดจองโรงแรมจากช่วงเวลาปกติ เป็นที่ยอมรับได้ว่าวันนี้ ไอคอนสยาม ไม่เพียงแต่เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว หมุดหมายสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกต่างต้องการมาเยี่ยมเยือน ทำให้ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวไทยและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่างก็ได้รับประโยชน์ไปด้วยกันอย่างแท้จริง”
ทางสมาคมการค้าฯ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาครัฐที่กำกับดูแลในการสนับสนุน และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ในแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งนี้ ได้มีกิจกรรมในทุกเทศกาลต่างๆ ต่อเนื่องทุกปี เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวไทย ไปยังนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้ได้รับทราบ และกำหนดเป็นเป้าหมายในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของพวกเราต่อไป”
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า “ช่วงสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลสำคัญของประเทศไทยที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยเทศกาลสงกรานต์ระดับโลกที่จัดขึ้น ณ ไอคอนสยาม ในปีนี้ ถือเป็นการตอกย้ำภาพความสำเร็จอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงเทศกาล countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 ให้กับโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยรอบให้กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง มียอดจองโรงแรมล่วงหน้า ช่วยสร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเห็นได้ชัด กล่าวได้ว่าไอคอนสยามมีส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดและสร้างมนต์เสน่ห์ และสีสันให้กับประเพณีไทย และกระตุ้นให้เกิดการจองห้องพัก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”
ไอคอนสยาม ประสบความสำเร็จท้วมท้นและเป็น No.1 Global Experiential Destination of Songkran Celebration 2025 ทุบสถิติ Social Trend บนออนไลน์ ได้รับการพูดถึงมากที่สุด และมีเอนเกจสูงถึง 534,215 Engagement จากข้อมูลของบริษัทไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการข้อมูลโซเชียลมีเดียชั้นนำ ยอด view บน TikTok Official Account ICONSIAM สูงถึง 165 M. views ยอด Engagement บน TikTok Official Account สูงถึง 10M+ Engagement อันดับ 1 Trend X 4 ครั้งตลอดการจัดงาน ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ยอดเช็คอิน ‘จุดเล่นน้ำ’ สูงสุดตลอดช่วงสงกรานต์ 2568
พร้อมกันนี้ กลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในงาน “ONESIAM Summersive” ที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 1.75 ล้านคน
สยามพารากอน โกลบอลเดสติเนชั่นใจกลางกรุงเทพฯ เป็นไฮไลต์ที่มอบความสุข ประสบการณ์แปลกใหม่และแตกต่าง จัดงาน Siam Paragon Summersive : Happiness in Full Bloom ครั้งแรกของการนำสวนดอกไม้เหนือจินตนาการ Garden of Joy สร้างประสบการณ์ Multi-Sensory มิติใหม่ของความสุขที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส
สยามเซ็นเตอร์ เนรมิตพื้นที่ของเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ให้เป็นสนามเด็กเล่นที่เต็มไปด้วยพลังไอเดียสร้างสรรค์ในงาน “Siam Center Summersive The Summer Playground”
สยามดิสคัฟเวอรี่ จัดงาน “Siam Discovery Summersive The Summer Exploratorium” ก้าวสู่โลกแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และแรงบันดาลใจอันไร้ขีดจำกัด ภายใต้คอนเซ็ปท์ Spring Awakening – A Teaser To Summer พร้อมไฮไลต์ประสบการณ์ใหม่จากแบรนด์ระดับโลก Alexander Wang ฉลองครบรอบ 20 ปี เป็นที่แรกในโลก
สำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในระหว่างวันที่ 6-12 เมษายน 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 666,180 คน เพิ่มขึ้น 10.73% เฉลี่ยวันละ 95,169 คน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี 2568 เพิ่มขึ้นกว่า 10.7 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 516,589 ล้านบาท ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ และฟื้นความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย
ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกลุ่มสยามพิวรรธน์ในการสร้าง “Global Experiential Destination” ด้วยการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกคือการนำประเทศไทยไปชนะบนเวทีโลกสร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่โดดเด่นเพื่อตอกย้ำให้กรุงเทพมหานครเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวโลก พร้อมเดินหน้าเป้าหมายนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน และสร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านล้านบาทในปีนี้