สยามพิวรรธน์ กระหึ่มครองความเป็นที่ 1 สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จทะลุเป้าไตรมาสแรกปี 2566
- รายได้รวมทั้งกลุ่มสยามพิวรรธน์ในไตรมาสแรก 2566 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรก 2565 โดยเพิ่มขึ้น 27%
- ส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายด้วย Iconic World Class Event ระดับโลก ดึงดูด Traffic มหาศาลเพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
- ย้ำความสำเร็จผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) เป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด
- คว้ารางวัลที่ 1 จากหลายเวที ตอกย้ำแบรนด์ที่หนึ่งในใจของผู้คน
กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ ประกาศปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จทะลุเป้าในไตรมาสแรกปี 2566 ผลประกอบการของทั้งกลุ่มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2566 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรกของปี 2565 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 27% ย้ำความสำเร็จผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ปริมาณ Traffic ของทั้ง 4 ศูนย์การค้า เพิ่มขึ้นประมาณ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก หนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยสร้างเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ พร้อมคว้ารางวัลที่ 1 จากหลายเวทีมาครอบครอง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกลุ่มสยามพิวรรธน์และสามารถครองความเป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด
นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า“การเริ่มต้นปี 2566 นี้ สยามพิวรรธน์ได้ตอกย้ำและสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างสูง สามารถสร้างรายได้ในไตรมาสแรก 2566 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 27% ด้วยปัจจัยจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกลยุทธ์ของสยามพิวรรธน์มุ่งเน้นเป็นเวทีที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์และผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด ส่งผลให้สินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดี ตอกย้ำให้สยามพารากอนและไอคอนสยามเป็น Destination ของ Luxury Brand ที่รวมแบรนด์ชั้นนำทุกประเภททั้งสินค้าแฟชั่น accessories นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงได้ครบครันมากที่สุดในประเทศ ย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย”
“นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังคงรังสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย โดยได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในเอเชีย ด้วยการเป็นสถานที่ในการจัดงานสำคัญระดับโลกตั้งแต่ต้นปี อาทิ LOUIS VUITTON (หลุยส์ วิตตอง)หลุยส์ จัดแสดงอินสตอลเลชั่น “Dancing Pumpkin” นำเสนอผลงานสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด ณ สยามพารากอน และไอคอนสยาม ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงพร้อมกับสถานที่สำคัญและเป็นสุดยอดเดสติเนชั่นต่างๆ ทั่วโลก อาทิ โตเกียว ปารีส ลอนดอน เป็นต้น และอีเวนต์เต็มรูปแบบครั้งแรกในเอเชีย งานแสดง “BAO BAO VOICE” โดย BAO BAO ISSEY MIYAKE (อิซเซ่ มิยะเกะ) ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ สะท้อนความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในการมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายแบบลักซ์ซูรี่สำหรับทุกคน (Luxury for all) อีกทั้งแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ลักซ์ซูรี่แบรนด์มอบให้กลุ่มสยามพิวรรธน์ พร้อมยกระดับประเทศไทยเป็นหมุดหมายตลาดลักซ์ซูรี่เทียบเท่าระดับโลก อีกทั้งยังได้ Global Collaboration ร่วมกับ พาราเมาท์ คอนซูเมอร์ โปรดักส์ นำแบรนด์ระดับโลก Nickelodeon SpongeBob SquarePants (นิคคาโลเดียน สพันจ์บ็อบ) การ์ตูนสุดฮอตที่เป็นที่รู้จักและมีแฟนคลับทั่วโลก จัดแคมเปญเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย ณ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ต้อนรับนักช้อปและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตลอดช่วงซัมเมอร์นี้”
ในไตรมาสแรกของปีนี้ ยังเดินหน้าปล่อยเม็กเน็ตใหม่ต่อเนื่อง โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดพื้นที่ True 5G PRO HUB โลกใบใหม่สำหรับคน New Gen พื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ การค้นพบ และการพัฒนาตัวเองสู่ทักษะอนาคต ตอบโจทย์ 3 ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ Gamer & E-Sports, Gen Z Lifestyle และ Future Skills อย่างไร้ขีดจำกัด ในขณะเดียวกันสยามดิสคัฟเวอรี่มีสินค้าแบรนด์ดังมาสร้างกระแสทอล์กออฟเดะทาว์นอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิด pre-order กระเป๋าแบรนด์ดัง CARLYN จากประเทศเกาหลี ที่สร้างสถิติยอดจองหมดภายใน 11 นาที โดยจากความนิยมของลูกค้าที่มีมากมายจากการเปิด pre order ส่งผลให้แบรนด์ตัดสินใจมาเปิด pop up boutique แห่งแรกในประเทศไทยที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ด้านสยามเซ็นเตอร์สร้าง engagement กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ร่วมกับ Tiktok จัดแคมเปญ The Fashhh Battle เปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัย ได้แสดงออกทางความคิด ไอเดียที่แปลกใหม่ และเปิดกว้างให้ทำในสิ่งที่ถนัด ถ่ายทอดลงบนแพลตฟอร์ม TikTok มีผู้ชมและร่วมแคมเปญกว่า 26 ล้านวิว
นับตั้งแต่เปิดปี สยามพิวรรธน์ยังคว้ารางวัลชนะเลิศจากหลายเวที ล่าสุดเวที 2023 Thailand’s Most Admired Brand & Why We Buy? โดยนิตยสาร BrandAge สยามพารากอนคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ศูนย์การค้าที่น่าเชื่อถือมากสุดในประเทศไทย และไอคอนสยามคว้ารางวัลอันดับ 3 นอกจากนี้ ในงานประกาศรางวัล THAILAND SOCIAL AWARDS จัดโดยบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด สยามพารากอน คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Brand Performance on Social Media เป็นแบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย สาขากลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า และไอคอนสยาม ได้รับรางวัล Finalist เป็นหนึ่งในห้าของแบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกลุ่มสยามพิวรรธน์และสามารถครองความเป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2566 นี้ ไอคอนสยามก้าวย่างสู่ปีที่ 5 และประสบความสำเร็จเติบโตอย่างสูงมาก ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ได้คลี่คลายลง ไอคอนสยามสามารถสร้างยอดขายสูงขึ้นกว่า 40% และจำนวน Traffic เพิ่มขึ้นถึง 94% เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2565 จากฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงอาศัยในฝั่งธนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ล้วนปักหมุดไอคอนสยามเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ยืนยันได้จาก แกร็บประเทศไทย ได้ประกาศข้อมูลการใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันแกร็บของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยไอคอนสยามติดโผอันดับ 1 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวต่างชาติชอบไปมากที่สุด”
“นับตั้งแต่ต้นปี ไอคอนสยามรวมพลังความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของพลังหัวใจไทย ทั้งจาก ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างมหาปรากฏการณ์ World Class Event ระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์นี้เป็น NATIONAL ICONIC LANDMARK และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก อาทิ ล่าสุดผนึกกำลังพันธมิตร สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ เปิดอาร์ตแอทแทรกชั่น “Van Gogh Alive Bangkok” (แวนโกะห์ อะไลฟ์ แบงค็อก) นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งนิทรรศการนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมกว่า 8.5 ล้านคนใน 80 เมืองทั่วโลก ทั้งปักกิ่ง, เบอร์ลิน, เดนเวอร์, ลอนดอน, มาดริด, มอสโก, โรม, ซิดนีย์, แฟรงค์เฟิร์ต, นาโกย่า และกัวลาลัมเปอร์, งานมหาสงกรานต์ “THE ICONIC SONGKRAN FESTIVAL 2023 สืบสานประเพณีสงกรานต์มหัศจรรย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวในไทย พร้อมสนับสนุนให้สงกรานต์ไทยขึ้นแท่นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมตอกย้ำแลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา, เบิกฟ้าเทศกาลตรุษจีนปีกระต่ายทองฉลองตรุษจีน "THE ICONSIAM ETERNAL PROSPERITY CHINESE NEW ยิ่งใหญ่ตระการตา นอกจากนี้ ไอคอนสยาม ยังมีเมืองสุขสยาม เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย ที่เป็นอีกหนึ่งแมกเน็ตสำคัญของไอคอนสยาม จัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้ 4 ภาคทั่วไทย กับงาน Amazing Thai Fruit Paradise ณ เมืองสุขสยาม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดล้วนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไอคอนสยามอย่างล้นหลาม”
ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มีต่อศูนย์การค้าในเครือของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ผู้นำความคิดสร้างสรรค์นำเสนอประสบการณ์เหนือระดับที่สร้างความตื่นตาตื่นใจรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าและยังมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ Top of mind of Tourism สร้างชื่อเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยด้วยการดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศอีกด้วย