บริษัทค้าปลีกและเจ้าของเว็บไซต์ความงามที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของญี่ปุ่น จับมือร่วมทุน ‘สยามพิวรรธน์’ เตรียมเปิด ‘@cosme store’ แห่งแรกในประเทศไทย
กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์
สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต ประกาศวันนี้ว่า ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท istyle Inc. (ไอสไตล์ อิงก์) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวของประเทศญี่ปุ่น โดย istyle Inc. คือบริษัทที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ @cosme สื่อออนไลน์ที่ให้บริการรีวิวและจัดอันดับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของเครือข่ายร้านสเปเชียลตี้สโตร์เครื่องสำอางที่ชื่อว่า ‘@cosme store’ ซึ่งกำลังจะเข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ไอคอนสยาม
ทั้งนี้ มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในชื่อ บริษัท ไอสไตล์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งกลุ่มไอสไตล์ของญี่ปุ่นถือหุ้น 70% และกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ถือหุ้น 30%
นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวว่า “@cosme เป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากในประเทศญี่ปุ่น สร้างกระแสเขย่าวงการดูแลความงามมาตั้งแต่ก่อตั้ง โดยในจำนวนผู้หญิงญี่ปุ่นที่มีอายุ 20 – 30 ปี ในทุกๆ 3 คน จะมี 2 คน ที่ใช้บริการเว็บไซต์นี้ในการหาคำแนะนำด้านความงาม ซึ่ง ‘@cosme store’ ได้ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเว็บไซต์ @cosme สร้างเป็นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ สยามพิวรรธน์จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอปรากฏการณ์และความน่าตื่นเต้นของ @cosme นี้ ให้กับประเทศไทยเป็นครั้งแรก”
มร. ฮาจิเมะ เอนโดะ รองประธานอาวุโส กิจการบริการด้านความงาม ของไอสไตล์ อิงก์ กล่าวว่า “‘@cosme store’ คือร้านจำหน่ายเครื่องสำอางยอดนิยมหลากหลายแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสร้างนิยามใหม่แห่งประสบการณ์การช้อปปิ้งเครื่องสำอางที่เหนือกว่า ด้วยบริการจัดอันดับเครื่อง สำอางจากฐานข้อมูลที่ใหญ่มากของเว็บไซต์ @cosme นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์เกือบทั้งหมดในร้าน ‘@cosme store’ จะมีสินค้าตัวอย่างเตรียมพร้อมเอาไว้ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองสนใจและชื่นชอบ พร้อมคำแนะนำจากที่ปรึกษาความงามมืออาชีพ เพื่อหาเครื่องสำอางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งนี่คือกระบวนการที่ @cosme เรียกว่า Discover, Experience, Your @cosme”
ปัจจุบัน เว็บไซต์ @cosme มีรีวิวจากผู้บริโภคมากกว่า 14 ล้านรีวิว ครอบคลุมเครื่องสำอางกว่า 300,000 รายการ จาก 32,000 แบรนด์ เป็นแหล่งข้อมูลที่มีความหลากหลายและเชื่อถือได้สำหรับผู้บริโภคทุกคน และได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาจากผู้บริโภคมาต่อยอดสร้างเป็นพื้นที่ขายสินค้า
มร.เอนโดะ กล่าวว่า “เรามีร้าน ‘@cosme store’ ทั้งหมด 25 สาขาในประเทศญี่ปุ่น และเมื่อปีที่แล้ว เราได้เริ่มขยายคอนเซปต์ร้านค้าของเราออกไปยังประเทศอื่นๆ โดยเปิดสาขาแรกในต่างประเทศ ที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ในเดือนพฤษภาคม 2560 และได้เปิดร้าน ‘@cosme store’ เพิ่มอีก 4 สาขา ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา ในไต้หวัน และฮ่องกง“
มร.เอนโดะ กล่าวว่า “การขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยครั้งนี้ สยามพิวรรธน์คือหุ้นส่วนที่ใช่สำหรับเรา เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในการเป็นผู้ปฏิวัติแนวคิดค้าปลีกรูปแบบใหม่ และความมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมสุดล้ำเพื่อการค้าปลีกอยู่เสมอ”
นางอุสรา กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์มีกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจด้วยการผนึกกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อนำทุกฝ่ายไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการค้าปลีกและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการผนึกกำลังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทที่มีแนวคิดสมัยใหม่และประสบความสำเร็จสูง อย่าง istyle Inc. สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของสยามพิวรรธน์ในฐานะที่เป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยในธุรกิจค้าปลีก และเป็นเจ้าแรกในการบุกเบิกนำเสนอคอนเซ็ปต์ค้าปลีกใหม่ๆ ตลอดจนนำเสนอสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน นั่นเพราะคอนเซ็ปต์ค้าปลีกของ @cosme ซึ่งเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์และส่งต่อสู่การขายสินค้าไปยังหน้าร้าน (ออฟไลน์) ถือเป็นรูปแบบการค้าขายที่จะมาสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับคนไทย อีกทั้ง ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามใหม่ๆ คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากที่ยังไม่เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อน ได้เข้าสู่ตลาดและเข้าถึงผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค”
นางอุสรา กล่าวเสริมว่า ธุรกิจ @cosme จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจค้าปลีกของ
สยามพิวรรธน์ ซึ่งปัจจุบันประกอบไปด้วยร้านค้า อาทิ the Loft, ALAND ร้านไลฟ์สไตล์สัญชาติเกาหลี, ODS ร้านขายของตกแต่งบ้านแบบมัลติแบรนด์ และ CAZH ร้านค้าเครื่องแต่งกายสไตล์ลำลองแบบมัลติแบรนด์ เป็นต้น
นางอุสรา กล่าวว่า “กิจการร่วมทุนครั้งนี้จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับสยามพิวรรธน์ ในการเติบโตจากการแตกไลน์ธุรกิจ นอกเหนือจากการเติบโตจากธุรกิจหลักคือการพัฒนาโครงการซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงระดับโลก”
กลุ่ม istyle ของประเทศญี่ปุ่นมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมียอดขายรอบปีบัญชีที่สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ประมาณ 8,557 ล้านบาท (28,470 ล้านเยน) ซึ่งเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากปีก่อนถึง 50.7%
ร้านแฟลกชิพสโตร์ของ @cosme ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว มียอดขายมากกว่า 40 ล้านบาทต่อเดือน ในปี 2560 ซึ่งถือเป็นร้านสเปเชียลตี้สโตร์เครื่องสำอางที่มียอดขายสูงที่สุดในญี่ปุ่น
ร้าน ‘@cosme store’ ทั่วไปจะมีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรวมทุกร้านในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านคนต่อเดือน ในร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประมาณ 7,000 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายใน ‘@cosme store’ มีราคาตั้งแต่ 200 บาทถึงประมาณ 4,000 บาท โดยผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเบสเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มียอดขายสูงถึงเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายรวมทั้งหมดซึ่งรวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทั้งนี้ ร้าน ‘@cosme store’ ซึ่งจะเป็นแฟลกชิพสโตร์ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ไอคอนสยามนั้น จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 300 ตารางเมตร